การดูแลและประเภทของแผลกดทับ: แนวทางการดูแลเพื่อป้องกันและรักษา
การดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวมักจะต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันและรักษาแผลกดทับ ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้จากการนอนหรือนั่งอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ โดยไม่มีการขยับตัว แผลกดทับสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับตามความรุนแรงของแผล แต่ละระดับต้องการการดูแลและใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน เรามาทำความรู้จักกับแต่ละระดับและวิธีการดูแลที่เหมาะสมกันดีกว่า
ประเภทของแผลกดทับ
แผลกดทับระดับที่ 1
แผลในระดับนี้เริ่มต้นด้วยการเกิดรอยแดงบนผิวหนัง ซึ่งยังไม่ฉีกขาด เมื่อกดด้วยนิ้วแล้วรอยแดงจะไม่จางหายไป แผลกดทับระดับที่ 1 สามารถรักษาได้ง่ายหากได้รับการดูแลที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ
แผลกดทับระดับที่ 2
เมื่อแผลเริ่มลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวหนังจะเริ่มเปิดออกหรือมีตุ่มน้ำใส ผิวที่ได้รับบาดเจ็บจะมีสีแดงหรือชมพู การดูแลแผลกดทับระดับนี้ต้องระวังเรื่องการติดเชื้อและรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด
แผลกดทับระดับที่ 3
แผลในระดับนี้จะลึกถึงชั้นไขมัน ผิวหนังเปิดออก อาจเห็นเนื้อตายหรือโพรงใต้ขอบแผล การดูแลแผลกดทับระดับที่ 3 ต้องใช้วิธีทำความสะอาดที่ละเอียดอ่อนและระวังเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการขยายตัวของแผล
แผลกดทับระดับที่ 4
แผลที่ลึกที่สุดในระดับนี้จะลึกจนเห็นกระดูก กล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็น การดูแลแผลในระดับนี้เป็นงานที่ท้าทายและต้องการการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาล
การดูแลแผลกดทับในแต่ละระดับ
แผลกดทับระดับที่ 1
สำหรับแผลกดทับระดับที่ 1 การดูแลที่สำคัญคือการลดแรงกดทับและรักษาความสะอาดของผิวหนัง โดยสามารถใช้แผ่นโพลียูริเทนโฟมและพลาสเตอร์ในการดูแลเบื้องต้นเพื่อป้องกันการเสียดสีและการติดเชื้อ
แผลกดทับระดับที่ 2 และ 3
การดูแลแผลในระดับที่ 2 และ 3 ต้องใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่ช่วยรักษาความสะอาดและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ โดยมีตัวเลือกในการใช้อุปกรณ์ดังนี้:
- แบบที่ 1 ไม้พันสำลีปลอดเชื้อ: ประกอบด้วยไม้พันสำลี ผ้าก๊อซปลอดเชื้อ พลาสเตอร์ กรรไกร น้ำเกลือปลอดเชื้อ ถุงขยะ และถุงมือสะอาด (มีหรือไม่มีก็ได้)
- แบบที่ 2 ชุดทำความสะอาดสำเร็จรูปปลอดเชื้อ: ประกอบด้วยสำลี ผ้าก๊อซ คีมคีบ น้ำเกลือปลอดเชื้อ ถาดพลาสติก และถุงมือสะอาด (มีหรือไม่มีก็ได้)
แผลกดทับระดับที่ 4
การดูแลแผลกดทับระดับที่ 4 ต้องการอุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แนะนำให้ใช้ชุดถาดโลหะเพื่อความสะดวกและประหยัด โดยมีตัวเลือกดังนี้:
- แบบที่ 1 ไม้พันสำลีปลอดเชื้อ: ประกอบด้วยไม้พันสำลี ผ้าก๊อซปลอดเชื้อ พลาสเตอร์ กรรไกร น้ำเกลือปลอดเชื้อ ถุงขยะ และถุงมือสะอาด (มีหรือไม่มีก็ได้)
- แบบที่ 2 ชุดทำความสะอาดสำเร็จรูปปลอดเชื้อ: ประกอบด้วยสำลี ผ้าก๊อซ คีมคีบ น้ำเกลือปลอดเชื้อ ถาดพลาสติก และถุงมือสะอาด (มีหรือไม่มีก็ได้)
- แบบที่ 3 ชุดถาดโลหะที่สามารถต้มทำความสะอาดได้: ประกอบด้วยถาด ถ้วย คีมคีบ ถุงมือสะอาด น้ำเกลือปลอดเชื้อ ผ้าก๊อซ สำลี กรรไกร และพลาสเตอร์ หลังใช้อุปกรณ์แล้ว ควรล้างชุดขัดโลหะให้สะอาดและต้มในน้ำเดือด 30 นาที แล้วผึ่งให้แห้ง
หมายเหตุ: หากแผลมีความรุนแรง เช่น มีกลิ่นเหม็น หรือผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อมแสดงอาการไข้ ควรรีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที
สรุป
การดูแลแผลกดทับเป็นงานที่ต้องอาศัยความใส่ใจและการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อให้แผลหายเร็วและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ ผู้ดูแลควรทำความเข้าใจถึงระดับของแผลและวิธีการดูแลที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้โดยเร็ว
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: การดูแลแผลกดทับต้องทำอย่างสม่ำเสมอและละเอียดอ่อน หากไม่มั่นใจในการดูแลแผล ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลเพื่อคำแนะนำที่ถูกต้องและปลอดภัย